ค้นใจไพ่ “เกย์ทาโรต์” กับหมอมีน นักพยากรณ์เพื่อชาว LGBTQ+ คนแรกของไทย
ซื้อหวยออนไลน์เว็บไหนดี มาที่นี้เลย DINGDONG888 เว็บหวยออนไลน์จ่ายจริง 900/95
เมื่อโลกหมุนสู่ยุค “เช็กชะตาผ่านสมาร์ทโฟน” นักพยากรณ์รุ่นใหม่ทยอยแจ้งเกิดไม่ขาดสาย และหลากหลายจนเจ้าชะตาอาจจำแทบไม่ไหว แต่หากย้อนไป 10 กว่าปีก่อน ชื่อที่ปรากฏอยู่บนสื่อต่าง ๆ ทั้งรายการโทรทัศน์และสิ่งพิมพ์จะต้องมี “หมอมีน” อรรถพล น้อยวงศ์ นักพยากรณ์ไพ่ทาโรต์คนแรกของไทยที่ใช้ไพ่ “GAY TAROT” ทำนายดวงชะตาสำหรับชายเฉพาะกลุ่มที่ได้รับความสนใจอย่างมากในเวลานั้น
หลังออกรายการคุณวิทวัส เขาได้ฉายา “หมอมีน ตีสิบ” และขึ้นแท่นเป็นนักโหราศาสตร์ชั้นนำที่เปิดคำทำนายคนดังในวงการบันเทิงและนักธุรกิจมาแล้วนับไม่ถ้วน ปัจจุบันแม้ผ่านไปนานนับทศวรรษ หมอมีนยังคงเป็นนักพยากรณ์ผู้ใช้ไพ่สำรับเฉพาะกลุ่ม ทั้งเป็นเป็นอาจารย์พิเศษในมหาวิทยาลัยหลายแห่ง และเป็นผู้ก่อตั้งสถาบันโหราศาสตร์อินเตอร์เพื่อธุรกิจ (International Astrology for Business Academy) ปั้นนักพยากรณ์รุ่นใหม่ด้วยหลักสูตรอเมริกันประยุกต์ (Applied American Tarot Course) ด้วยหลักการที่ เรียนรู้ง่าย ไม่ต้องท่องจำ ทำงานได้จริง
หมอมีน ในรายการตีสิบ
“หมอมีน” อรรถพล น้อยวงศ์
เปิดไพ่ไม่ใช้การท่องจำ
หมอมีนเริ่มสนใจไพ่ทาโรต์ตั้งแต่สมัยเรียน ได้เห็นซุ้มไพ่ในร้านหนังสือตอนไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนในต่างประเทศจึงเข้าใจว่า ไพ่ทาโรต์เป็นงานศิลปะที่มีความหลากหลายนับหมื่นชุด ไม่ได้มีเพียงไพ่ที่ยุคนั้นเรียก “ไพ่ยิปซี” ชุดเดียวแบบที่คุ้นเคย กระทั่งหันมาศึกษาศาสตร์นี้อย่างจริงจังในวัยทำงาน โดยสมัครเป็นศิษย์ อาจารย์ถาวร บุญญวรรณ นักพยากรณ์ต้นแบบที่หมอมีนเคารพ
“สมัยก่อนมีพีอาร์สัมมนาฟรีมีประโยขน์เยอะมาก เราก็ไปลองเรียนดูกับหลายคนแต่ก็ไม่คลิก จนไปสะดุดข้อความของอาจารย์ถาวรในแมกกาซีน ที่บอกว่า “ดูไพ่ทาโรต์ไม่ต้องท่องจำ” จังหวะนั้นอาจารย์มีนิทรรศการที่ศูนย์ฯสิริกิติ์ ผมก็ขับรถไปคุยกับอาจารย์แล้วก็ขอเรียนเลย”
หมอมีนเริ่มเรียนรู้การดูไพ่โดยใช้จิตสำนึกแบบ “ค้นใจไพ่และแปลความหมาย” จากมาสเตอร์ต้นแบบ ต้องใช้เวลาเรียนหลายสัปดาห์ แต่พอถึงครึ่งทางหมอมีนก็เริ่มเปิดไพ่ทำนายให้ผู้สนใจ เขาเปรียบว่า ถ้าเด็กกรุงเทพจะเรียนว่ายน้ำก็ต้องไปสระว่ายน้ำมีครูสอน แต่ตนเหมือนเด็กบ้านนอกที่โดนถีบลงคลอง จึงว่ายเป็นเร็ว
หลังเรียนกับอาจารย์ถาวรจบ หมอมีนเปลี่ยนลุคสลับไปมาระหว่างมาร์เก็ตติ้งหนุ่มผูกไทด์ กับนักพยากรณ์หิ้วกระเป๋าที่บรรจุผ้าปูและสำรับไพ่ทาโรต์ ยุคนั้นยังไม่มีช่องทางออนไลน์ให้โปรโมทตัวเองแต่คนดูไพ่บอกกันปากต่อปากจนต้องตัดสินใจออกจากงานประจำ และเปิดพื้นที่ทำนายชะตาร่วมกับเพื่อนอย่างจริงจัง ที่ตลาดบองมาเช่ ย่านประชานิเวศน์ ขยายอีกสาขาในย่านรัชดา ซอย 7 นาทอง เมื่อปี 2557
ภาพ Gay Pride แสดงออก ด้านการเปลี่ยนแปลง ปฎิวัติ หาสิ่งที่ดีขึ้น
ไพ่เกย์สำรับแรก
“เราเป็นคนครีเอทีฟ ซื้อไพ่เยอะมากหลายสิบชุด จนรู้สึกว่าไพ่แต่ละสำรับมีความน่าสนใจ มีเรื่องราวและไลฟ์สไตล์ที่ไม่เหมือนกัน เราจึงเลือกไพ่ที่แมตช์กับคนที่มาดู เช่นตอนนั้นจะมีกลุ่มผู้หญิงแรง ๆ บิชชี่ ๆ หน่อย จะใช้ชุด The Witchy Tarot ถ้าเป็นผู้ชายที่ค่อนข้างเจ้าชู้ จะใช้สำรับของ Casanova
สมัยก่อนไม่เหมือนสมัยนี้ที่ซื้อกันทางออนไลน์ กว่าจะหาไพ่แต่ละชุดยากมาก ต้องสั่งผ่านค่ายที่เป็นตัวแทนนำเข้ามา ตอนนั้นเราเห็นในแคตตาล็อกแล้วว่ามีไพ่เกย์ทาโรต์ แต่เขาบอกว่าไม่มีนโยบายที่จะเอาไพ่ของเพศที่สามเข้ามาในไทย เรายังบอกเขาว่าทำไมจึงไม่นำเข้ามาเพราะทั้งหมอดูและคนที่มาดูเป็นเพศที่สามเยอะมาก เขาก็ไม่สนใจ เราเลยขอให้เพื่อนที่อเมริกาซื้อมาให้เอง ก็เลยกลายเป็นเรามีไพ่เกย์คนแรกและคนเดียวในประเทศไทย ตอนนั้นก็ไม่ได้คิดว่าพิเศษอะไร เราก็เลือกไพ่ดูไปเรื่อย ๆ พอคนดูก็บอกกันปากต่อปาก เลยยาวจนถึงตอนนี้”
นอกจากเป็นหมอดู หมอมีนยังเขียนหนังสือหลายเล่ม มีผลงานต่อเนื่อง ปัจจุบันยังเป็นคอลัมน์นิสต์ให้กับสื่อออนไลน์ และวิทยากรรับเชิญให้บริษัทชั้นนำหลายแห่ง ทั้งเปิดไพ่ เปิดสอนเฉพาะกลุ่ม โดยปรับวิธีไปตามยุคสมัย เปลี่ยนมาใช้เทคโนโลยีแทนการเช่าพื้นที่บนทำเลทอง
หลักเปิดไพ่ สไตล์หมอมีน
“เราจะสอนคนที่มาเรียนเสมอว่า ให้เลือกไพ่ที่เหมาะกับตัวเขา แต่ตัวเราต้องดูไพ่ได้ทั่วโลก”
หมอมีนสื่อถึงหลักการเป็นนักพยากรณ์ที่ต้องสามารถตีความหมายของไพ่ได้ทุกสำหรับ ไม่เฉพาะเจาะจงเฉพาะไพ่ประเภทนั้น ๆ แต่หากมองในมุมนักพยากรณ์ไพ่ทาโรต์เกย์ ต้องเข้าใจในรูปภาพ ความหมายและสิ่งที่การต้องการสื่อของคนเขียนภาพ แล้วตีความให้เข้ากับผู้มาดู ซึ่งหากผู้ดูเป็นเกย์หรือเพศที่สาม ไพ่เกย์ทาโรต์จะตอบโจทย์ได้มากกว่า
“หลายคนดูไพ่แล้วรู้สึกว่าไม่แม่น อาจเพราะมีการตีความเป็นแค่ผู้ชายผู้หญิง แต่จริงๆ ไม่ได้ตีความได้แค่นั้น บนไพ่เกย์มีไลฟ์สไตล์เกย์ปรากฏอยู่ชัดเจนจึงตรงกว่า แต่เราต้องดูก่อนว่าเขาเป็นเกย์จริงหรือเปล่าเราจะดูจากตัวเลขวันเดือนปีเกิดและเปิดไพ่กลางก่อนเบื้องต้น ถ้าเปิดแล้วเจอใบที่ชี้ว่าก็ต้องถามก่อน บางทีมาโป๊ะแตกในร้าน คือถ้าดู ดวงกับสำรับนี้ต้องยอมรับ ถ้ามั่นใจก็นั่งดูด้วยกันกับเพื่อนได้ ถ้าไม่มั่นใจก็ดูส่วนตัว เป็นจรรยาบรรณของหมอดู ไม่ใช่เพื่อนพามาแล้วบังคับให้ยอมรับต่อหน้า เราไม่ทำแบบนั้น”
หมอมีนบอกด้วยว่าชายรักชายสมัยก่อนอาจเข้าใจว่ามีแค่เกย์คิงเกย์ควีน แต่ปัจจุบันมีเพศที่หลากหลาย เฉพาะประเภทเกย์แบบอเมริกัน ซึ่งแบ่งตามพฤติกรรมในการดําเนินชีวิต แบ่งเกย์เป็น 5 แบบ คือ Homey Gay เกย์ชอบอยู่บ้าน คิดอ่านคล้ายผู้หญิง Night -going Gay ชอบสังคมกลางคืน Trendy Gay ชอบแฟชั่นและความทันสมัย Muscle Gay ชอบฟิตหุ่นออกกําลังกาย และ Outstanding Gay ทุ่มเททุกอย่างด้านการงาน เพื่อสร้างเกราะให้ความรู้สึกที่ไม่มั่นคงของตัวเอง แต่เกย์ทุกประเภทสามารถใช้ไพ่เกย์ทำนายได้ แต่หากเป็นทอมหรือเลสเบี้ยนอาจไม่ตรงนัก
ไพ่ความรักที่แท้true ของเกย์รักจริง
ความรักเรื่องใหญ่ แต่ “รักตัวเอง” ใหญ่กว่า
หมอมีนเปิดไพ่ให้เกย์มามากจนนับหลักไม่ได้ ความสนใจส่วนใหญ่เป็นเรื่องการเงินและเรื่องความรัก แต่จากยุคกึ่งอนาล็อกถึงยุคดิจิตอลเต็มตัว พบว่ามีความเปลี่ยนแปลงที่ต่างจากเดิม
“ทุกเพศที่มาดูส่วนใหญ่เป็นเรื่องความรัก แต่ของเกย์จะมีเรื่องของความมั่นคง เห็นภายนอกอาจดูเป็นแนวสนุกสนาน แต่จริง ๆ มีความกังวลว่าแก่ตัวไปไม่มีครอบครัวแล้วจะเป็นอย่างไร สมัยก่อนเกย์มักจะเปรียบเทียบตัวเองกับเพื่อนในรุ่นเดียวกัน และเครซี่เรื่องความรักมาก เพราะรักผู้ชาย ต้องปกปิด เอาเงินไปให้ทุ่มเทเลี้ยงดู แต่เดี๋ยวนี้ไม่มีเเล้ว เกย์ยุคใหม่รักตัวเองมากขึ้น หากทุ่มก็จะทุ่มแบบฉลาดขึ้น เพราะทางออกมีหลากหลาย เปิดเผยชัดเจน เกย์รักเกย์ได้ ไม่ใช่เกย์รักผู้ชายเหมือนก่อน”
“แต่ความรักของเกย์ก็เหมือนในไพ่ทาโรต์ มีการหลอกลวง ต่างคนต่างมีกิ๊ก ผู้ชายหลอกผู้หญิงอย่างไร ผู้หญิงหลอกผู้ชายอย่างไร ในสังคมเกย์ก็เป็นแบบนั้น”
ไพ่เกย์ที่โดดเด่น เหมือนเป็น The Star
“ความแม่นยำ” ไม่ใช่คำตอบเสมอไป
ลูกศิษย์หลายคนขอให้สอนเปิดไพ่เกย์โดยเฉพาะ แต่หมอมีนจะเน้นสอนให้ทุกคนสามารถเปิดไพ่ได้ทุกแบบ เพื่อความรู้รอบและจำเป็นต้องฝึกฝนเรื่อง “ทักษะการสื่อสาร” ซึ่งหลายคนอาจมองข้ามไป
“การดูไพ่เกย์ทาโรต์ต้องเอาประสบการณ์จากการดูไพ่อื่นๆ มาประยุกต์ใช้ด้วย เพราะจริงๆ การดูดวงต้องเปรียบเทียบให้เขาเห็นภาพ หากเแม่นอย่างเดียวแต่เขาไม่เห็นภาพก็ไม่ถูก เราควรเปิดด้านอื่นให้เขาได้ข้อคิด ต้องให้ทางออก เพื่อให้เขาสบายใจขึ้น สมมติมีลูกกำลังสอบเข้ามหาลัยแล้วพามาดู ก็ตอบง่ายมาก ว่าติดหรือไม่ติด แต่เราก็จะแนะนำให้เปิดอีกใบหนึ่ง ให้เห็นว่าถ้ามีมหา’ลัยสำรอง หรือเป็นปีหน้า หรือมีดวงไปเรียนต่างประเทศจะมีโอกาสที่ดีกว่า บางคนแม่บอกว่าลูกเหมาะกับหมอมาก เเต่ไพ่ที่เปิดออกมาออกไปทางภาษามากกว่า เราก็ต้องให้ข้อมูลตามไพ่ แต่เขาจะเลือกอย่างไรก็ต้องไปคุยและตัดสินใจกันเอง”
หมอมีนเล่าต่อว่า หลักสูตรใช้มาตลอดเป็นหลักสูตร American Tarot ซึ่งเน้นให้คำปรึกษา เพราะฉะนั้นระหว่างทำนายจึงไม่มีการบังคับหรือพยายามโน้มน้าวให้ผู้ดูทำอย่างนั้นอย่างนี้
“เรามีกฏต้องห้าม คือห้ามไปสั่งสอนเขา ไม่เช่นนั้นเขาจะปิดเลยไม่ฟังเราอีกเลย บางคนอาจจะใช้คำพูดโดยไม่รู้ตัวว่านั่นคือการสั่งสอนเขาแล้ว เรื่องนี้ต้องฝึกเลย อย่างเช่น ลูกค้าจะทำแท้ง ก็ต้องบอกเขาว่าทำแล้วมันเกิดอะไรขึ้นจากไพ่ ไม่ใช่ไปบอกว่าทำแท้งบาปนะ ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าบาป เขาไม่ได้มาเพื่อให้เราไปตอกย้ำ แต่เรามีทางออกอย่างไร เช่น บางรายไพ่บอกมีผู้ใหญ่อุปถัมภ์ ก็ให้บอกพ่อแม่ก่อนแล้วค่อยตัดสินใจ บางคนกลัวผู้ชายไม่โอเคแต่ไพ่บอกว่าอีกฝ่ายโอเคนะ ต้องบอกให้ลองคุยกัน บางคนเปิดไพ่มาเห็นผู้หญิง แต่แม่ผู้หญิงบางคนก็ช่วยไม่ได้นะ อาจจะเป็นป้าหรือใครที่ช่วยให้คำตอบได้ เขาจะให้คำตอบคุณได้นะ เราไม่ได้ตอบว่าทำแท้งได้หรือไม่ ต้องให้ไปคุยกันก่อนแล้วค่อยตัดสินใจ นี่ล่ะคือการเป็นคอนเซาท์ที่ช่วยเสนอทางออก เพราะไพ่ที่เปิดมานั้นแม่นอยู่แล้ว”
“มีคนนึงมาดูดวงกับเราเป็นคนที่สามสิบ ถามว่าผู้ชายจะกลับมาไหม เราเปิดไพ่แล้วบอกว่าต้องไปหาผู้หญิงคนหนึ่ง หลังจากนั้นเขาโทรศัพท์กลับมาหาบอกว่า ถ้าวันนั้นเราบอกว่าไม่กลับ เหมือนหมอดู 29 คนที่ผ่านมา เขาคงฆ่าตัวตายเพราะตอนนั้นเขายังรับไม่ได้ กลายเป็นว่าเขาไปหาเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่ง จึงปรึกษากันแล้วทำให้เขารู้สึกดีขึ้น”
หมอมีนยกเคสตัวอย่างให้เห็นว่าผลทำนายที่บอกตรง ๆ เพื่อให้เห็นว่าแม่นยำ ในบางสถานการณ์ก็ไม่เหมาะ บางคนหากรับไม่ได้แค่ร้องไห้ก็จบ แต่บางคนรับไม่ได้ฆ่าตัวตายก็มี จึงต้องดูไพ่ว่ามีทางออกอื่นๆ อีกไหม หากดูให้ตรงแล้วลูกค้าทุกข์กว่าเดิม ก็ไม่ทำ
การทำนาย แค่ไกด์ไลน์ชีวิต
การเปิดไพ่ทาโรต์ไม่ว่าเป็นสำรับเฉพาะกลุ่มหรือไพ่ทาโรต์ทั่วไป หมอมีนแชร์ความเห็นว่า นักพยากรณ์เปิดอ่านคำทำนายไปตามไพ่ ซึ่งภาพในไพ่สามารถบอกทั้งด้านดีและด้านไม่ดีก็ได้ ดังนั้นผู้ที่มาดูไพ่ต้องเข้าใจให้ได้ว่าเรื่องเหล่านี้ “ยังไม่เกิดขึ้นจริง” เพราะฉะนั้นคำทำนายจึงเป็นการคาดคะเนเรื่องในอนาคต
“ผมดีใจที่ได้ใช้ความสามารถในการเปิดไพ่ ช่วยตอบโจทย์ LGBTQ+ ได้อย่างลึกซึ้ง แต่ผมขอบอกทุกคน ทุกเพศ ทุกทางเลือกเลยว่า จริงที่ทุกคนต้องการที่พึ่งทางใจ ถ้าไพ่ออกมาดีก็บ่งบอกว่าเรามีโอกาสที่จะได้ที่หวัง แต่ขอให้ดูเพื่อวางแผนต่อไป หยิบส่วนที่มีประโยชน์มาปรับใช้กับตัวเอง ผมบอกทุกคนเสมอว่า เราต้องเป็นคนเลือกเอง ไม่ใช่หมอดูเลือกให้” หมอมีนย้ำท้งท้ายด้วยว่า
บล็อกอื่นๆที่น่าสนใจ
